การฟอกสีเสื้อมีกระบวนการอย่างไร และเป็นอย่างไร

ฟอกสีเสื้อ

การฟอกสีเสื้อ เสื้อฟอกวินเทจ เป็นหนึ่งในวิธีการกอบกู้เสื้อผ้าที่มีความหมองคล้ำ สีซีดจาง หรือมีคราบสกปรกฝังแน่นที่ซักตามปกติไม่ออก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากพบเจอ โดยเฉพาะเสื้อยืดตัวโปรด หรือเสื้อที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกระบวนการฟอกสีเสื้อ ซึ่งเป็นการทำให้เสื้อที่มีความหมองคล้ำ สีซีดขาง หรือมีคราบฝังแน่นบนเสื้อ ไม่สามารถซักออกได้ นำมาเปลี่ยนให้กลายเป็นเสื้อฟอกที่จะช่วยสร้างสไตล์ที่แตกต่างอย่างสวยงาม!

การฟอกสีเสื้อ คืออะไร

การฟอกสีเสื้อ หรือที่เรียกว่าเสื้อฟอก คือ เสื้อที่ผ่านกระบวนการทำให้สีของเสื้อผ้าซีดลงหรืออ่อนลง ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนเฉดสีของเสื้อที่ทำได้ 2 วิธี ได้แก่ การฟอกสีเสื้อโดยการใช้สารเคมี และวิธีทางธรรมชาติ โดยจะสามารถกอบกู้และแก้ไขเสื้อผ้าที่มีความหมองคล้ำ สีซีดจาง และมีคราบสกปรกฝังแน่นที่ซักตามปกติไม่ออกให้กลับมาขาวใส และมีความสวยงาม สามารถใช้งานได้อีกครั้ง!

โดยปกติแล้ว วิธีทำให้สีเสื้ออ่อนลง โดยการฟอกสีเสื้อ มักจะนิยมนำเสื้อมาฟอกให้เป็นสีที่ดูซีดและมีความเก่าแบบวินเทจ หรือเป็นเสื้อฟอกที่มีหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็น สีเทาอ่อน, สีครีม หรือสีขาว ซึ่งเป็นสีที่ฟอกจนซีดเกือบขาว รวมถึงการฟอกในรูปแบบอื่น ๆ เช่น เสื้อฟอกลายแบบมัดย้อม เสื้อฟอกแบบไล่สี เป็นต้น

ทำไมการฟอกสีเสื้อ ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการฟอกสีเสื้อเพื่อทำให้กลายเป็นเสื้อฟอก โดยปกติแล้ว รูปแบบของเสื้อฟอกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ เสื้อฟอกวินเทจ และเสื้อฟอก Oversize ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเท่และทันสมัย เนื่องจากเสื้อที่ผ่านการฟอกสีเสื้อจะมีความวินเทจ หรือมีความเป็นศิลปะเฉพาะตัว และในบางกรณียังมีการสกรีนเสื้อฟอกที่จะทำเป็นเสื้อพิมพ์ลายเพื่อสร้างสไตล์ที่แตกต่าง ดูมีมิติ และมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การฟอกสีเสื้อยังถือว่าเป็นการแก้ไขเสื้อผ้าที่มีความหมองคล้ำ มีสีซีดจาง และมีคราบสกปรกฝังแน่นบนเนื้อผ้าจนซักไม่ออก เพราะการฟอกสีเสื้อจะช่วยให้เสื้อของคุณกลับมามีสภาพที่ดีขึ้นและดูเหมือนได้ซื้อใหม่เลยทีเดียว! ที่สำคัญ สำหรับผู้ประกอบการที่มีการจำหน่ายเสื้อผ้าอยู่แล้ว บอกเลยว่าเสื้อฟอกวินเทจเป็นเทรนด์ที่ไม่ตกยุค ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

วิธีทำให้เสื้อสีซีดลงด้วยกระบวนการฟอกสีเสื้อ 

การฟอกสีเสื้อสามารถทำได้ถึง 2 วิธี นั่นคือ กระบวนการฟอกสีเสื้อโดยการใช้สารเคมี และใช้วิธีทางธรรมชาติ ดังต่อไปนี้

ฟอกสีเสื้อด้วยสารเคมี

การฟอกสีเสื้อด้วยสารเคมี ใช้เตรียมน้ำยาฟอกขาว หรือน้ำออกซิเจนที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอในอัตราส่วนที่เหมาะสม หลังจากนั้นให้นำเสื้อมาแช่ในสารละลายในเวลาที่กำหนดตามความเข้มของสีที่ต้องการฟอกอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเนื้อผ้า และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว ให้ล้างน้ำสะอาดและใช้สารต้านออกซิเดชันเพื่อป้องกันไม่ใช่สารเคมีทำลายเส้นใยต่อเนื่อง ซึ่งควรจะล้างน้ำเปล่าหลาย ๆ รอบ และตากให้แห้งในที่ร่ม ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

ฟอกสีเสื้อด้วยวิธีธรรมชาติ

การฟอกสีเสื้อด้วยวิธีธรรมชาติ สามารถใช้ได้ทั้งน้ำส้มสายชูกับน้ำมะนาว และใช้น้ำเกลือ โดยการฟอกสีเสื้อด้วยน้ำส้มสายชูและน้ำมะนาว ให้ผสมน้ำร้อน 4 ลิตร กับน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ถ้วยตวง และเติมน้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้แช่เสื้อในน้ำเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำเสื้อไปตากแดดจนแห้งสนิท ส่วนการฟอกสีเสื้อด้วยน้ำเกลือ ให้นำน้ำร้อนผสมเกลือทะเลประมาณ ½ ถ้วยตวง จากนั้นแช่ทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้วให้นำเสื้อไปตากแดด เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนเสื้อเก่า ๆ ให้กลายเป็นเสื้อฟอกวินเทจที่มีความสวยงามได้แล้ว!

บทสรุป

การฟอกสีเสื้อด้วยกระบวนการต่าง ๆ ทั้งการใช้สารเคมีและใช้วิธีทางธรรมชาติ จะช่วยให้เสื้อผ้าเก่า หรือเสื้อที่มีความหมองคล้ำ มีสีซีดจาง และมีคราบสกปรกฝังแน่นจนซักไม่ออก กลายมาเป็นเสื้อผ้าที่มีความทันสมัย สามารถสวมใส่ไปเที่ยว หรือใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างโดดเด่นและมีสไตล์ ปรับลุคของเสื้อและการแต่งกายให้มีความคูลมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถนำมาพิมพ์ลายได้อย่างสวยงามอีกด้วย

 

แต่สำหรับใครที่ต้องการเสื้อพิมพ์ลาย Digital Print แต่ต้องการเนื้อผ้าชนิดอื่น ๆ สามารถสั่งทำและออกแบบได้ตามต้องการได้ที่  Smart Uniform รับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกชนิด นอกจากนี้ ยังสามารถสั่งผลิตชุดยูนิฟอร์ม เสื้อโปโล เสื้อยืด หมวก พร้อมงานปัก-งานสกรีน ออกแบบฟรี และบริการอื่น ๆ ที่ครบครัน!