ชุดยูนิฟอร์มเป็นชุดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความสะดวกในการสวมใส่ และความเรียบร้อยขององค์กร ซึ่งในปัจจุบันมีเนื้อผ้าหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป บ้างระบายความร้อนดี บ้างมีความทนทาน เป็นต้น โดยในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับชุดยูนิฟอร์มให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ พร้อมแนะนำเนื้อผ้าที่นิยมใช้ในการผลิตชุดยูนิฟอร์ม
ทำความรู้จัก ชุดยูนิฟอร์ม
ชุดยูนิฟอร์ม (Uniform) เป็นเสื้อผ้าหรือชุดเฉพาะสำหรับพนักงานในองค์กร บริษัทต่าง ๆ ที่ใช้เป็นมาตรฐานและรูปแบบเดียวกัน ซึ่งชุดยูนิฟอร์มถูกออกแบบมาเป็นเอกลักษณ์ของเฉพาะของแต่ละองค์กร เพื่อบ่งบอกถึงความเป็นบุคลากรขององค์กรนั้น ๆ รวมไปถึงยังเป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสร้างภาพลักษณ์ที่น่าจดจำได้เป็นเองดี
นอกจากนี้ ชุดยูนิฟอร์มยังสามารถใช้ในการโฆษณาไปในตัวได้อีกด้วย โดยข้อดีของชุดยูนิฟอร์มที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร และการช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับพนักงาน เนื่องจากปกติแล้วชุดยูนิฟอร์มคือสวัสดิการขององค์กรให้แก่พนักงานนั่นเอง ส่งผลให้พนักงานไม่จำเป็นต้องเสียเงินในการซื้อเสื้อผ้าบ่อยครั้ง หรือหลากหลายชุด เพื่อใช้สวมใส่ในการทำงาน
การเลือกเนื้อผ้าสำหรับผลิตชุดยูนิฟอร์มสำคัญอย่างไร?
การเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมสำหรับการผลิตชุดยูนิฟอร์มนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด เนื่องจากเนื้อผ้าแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งควรเลือกให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งานและงานแต่ละประเภท ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นงานที่ต้องเจอความร้อนหรือไฟ ควรเลือกเนื้อผ้าที่มีความทนทานต่อไฟ ไม่ติดไฟง่าย เพื่อป้องกันพนักงานจากการถูกไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ การเลือกเนื้อผ้าที่ดีและเหมาะสมกับชุดยูนิฟอร์ม จะส่งผลให้พนักงานเกิดความรู้สึกสะดวกสบาย โดยปราศจากปัญหาหรืออุปสรรคในการสวมใส่ เช่น การเคลื่อนไหวลำบาก อาการคัน หรือไม่สบายผิวเมื่อถูกสัมผัส ดังนั้นแล้ว ชุดยูนิฟอร์มที่เหมาะสมถือเป็นอีกหนึ่งทางที่ทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพและคุณภาพเช่นเดียวกัน
เนื้อผ้าที่นิยมใช้ในการผลิตชุดยูนิฟอร์ม
ตามจริงแล้ว สามารถใช้เนื้อผ้าประเภทไหนก็ได้สำหรับผลิตเป็นชุดยูนิฟอร์มแบบต่าง ๆ เนื่องด้วยเนื้อผ้าแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะใช้เนื้อผ้าประเภทไหนก็ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อผ้าทุกชนิดจะเหมาะสมต่อการผลิตเป็นชุดยูนิฟอร์ม ดังนั้นแล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าในปัจจุบันมีเนื้อผ้าชนิดไหนบ้างที่นิยมใช้ผลิตเป็นชุดยูนิฟอร์ม
ผ้าคอมทวิว (Comb Twill)
ผ้าคอมทวิวมีส่วนผสมของเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์ ทำให้เนื้อผ้าคอมทวิวไม่ติดฝุ่นง่าย มีความเงา แวววาวมากกว่าเนื้อผ้าชนิดอื่น อีกทั้งยังสามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุดเด่นของผ้าคอมทวิวคือลายผ้าที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่เห็นได้ชัดของเนื้อผ้าคอมทวิวคือ สีของเนื้อผ้าหรือเส้นใยผ้าจะซีดได้ง่ายกว่าผ้าชนิดอื่น หากสัมผัสกับแสงแดดที่แรงจัด รวมไปถึงการซักหลายครั้งก็ทำให้สีซีดได้เช่นกัน
ผ้าฝ้าย (Cotton)
ผ้าฝ้ายหนึ่งในชนิดเนื้อผ้าที่นิยมนำไปผสมกับเส้นใยชนิดอื่น ๆ เพื่อผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่มต่าง ๆ โดยผ้าฝ้ายผลิตขึ้นมาจากดอกไม้ชนิดหนึ่งจากต้นฝ้าย ซึ่งส่วนใหญ่เติบโตในแถบพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่น ชื้น และมีแดดจัด โดยผ้าฝ้ายโดดเด่นในด้านผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม ไม่สร้างความระคายเคืองให้แก่ผิว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้น ข้อเสียของผ้าฝ้ายคือความสามารถในการยืดหยุ่นน้อย ทำให้เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายนั้นยับง่าย
ผ้าดรายเทค (Dry TECH)
ผ้าดรายเทคเป็นเนื้อผ้าที่ทอขึ้นด้วยเทคโนโลยีการทอ 2 ชั้น มีการผสมผสานของผ้าไมโครโพลีเอสเตอร์ (Micro Polyester) และผ้าฝ้าย (Cotton) ทำให้ผ้าดรายเทคมีคุณสมบัติที่แตกต่างคือ พื้นผิวของผ้าทั้ง 2 ด้านไม่เหมือนกัน โดยพื้นผิวด้านผ้าฝ้ายจะมีความเรียบ เนียน แต่พื้นผิวด้านผ้าไมโครโพลีเอสเตอร์จะเป็นผ้าลาย ด้วยคุณสมบัติผสานผสานจากเนื้อผ้าทั้งสองชนิดนี้ ส่งผลให้ผ้าดรายเทคมีความนุ่มนวล สวมใส่สบาย และแห้งได้ไว
ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
ผ้าสังเคราะห์ที่ผลิตจากปิโตรเลียม (Petroleum) โดยมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา และระบายอากาศได้ดี อีกทั้งผ้าโพลีเอสเตอร์ยังมีราคาถูกอีกด้วย จึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่นิยมสำหรับนำไปผลิตเป็นชุดยูนิฟอร์ม เพราะเหมาะสำหรับอากาศประเทศไทยที่มีความร้อนชื้นตลอดทั้งปี ทำให้พนักงานไม่อึดอัดและร้อนมากจนเกินไปขณะสวมใส่ แม้ว่าจะไม่อยู่ในห้องแอร์ แต่ชุดยูนิฟอร์มที่ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์ก็ยังเหมาะสมอย่างมาก
ผ้าเวสปอยท์ (Westpoint Febric)
ส่วนใหญ่แล้ว ผ้าสังเคราะห์ผลิตจากใยลินิน 100% แต่บางประเภทอาจมีการผสมผสานกับใยชนิดอื่นร่วมด้วย เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการปรับให้เหมาะกับการตัดเย็บเนื้อผ้าชนิดอื่น ซึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของผ้าเวสปอยท์คือ ความหนา ความแข็งแรง ทนทานความร้อนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงสะเก็ดหรือประกายไฟได้ด้วยเช่นเดียวกัน จึงทำให้เหมาะสำหรับงานหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับประกายไฟ ปิโตรเคมี น้ำมัน หรืองานเชื่อม เป็นต้น
บทสรุป
การเลือกเนื้อผ้าชนิดต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหรับการผลิตชุดยูนิฟอร์มเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อช่วยให้พนักงานรู้สึกสะดวกสบายขณะสวมใส่ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การเลือกเนื้อผ้าที่เหมาะสมเป็นการยืดอายุการใช้งานชุดยูนิฟอร์มได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หากใครกำลังมองหาชุดยูนิฟอร์มคุณภาพสูงในราคาไม่แพง SMART UNIFORM ตอบโจทย์ความต้องการของท่านอย่างแน่อน ด้วยบริการรับผลิตชุดยูนิฟอร์มทุกชนิด รับประกันได้ว่าท่านจะได้รับสินค้าคุณภาพสูง สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่เว็บเว็บไซต์ หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร 02-415-7195